วันพุธ, 4 ธันวาคม 2567

6 ขั้นตอนเปลี่ยนแมนฯ ซิตี้ สู่เทรเบิ้ลแชมป์ 2023

6 ขั้นตอนเปลี่ยนแมนฯ ซิตี้ สู่เทรเบิ้ลแชมป์ 2023

เรือใบสีฟ้าทำเป้าหมายสูงสุดของพวกเขาได้สำเร็จนั่นคือถ้วยแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และนั่นต้องยกความดีความชอบให้ เป๊ป กวาร์ดิโอลา

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของสโมสร หลังเอาชนะ อินเตอร์ มิลาน 1-0 ผงาดคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยแรกของสโมสรไปครองได้สำเร็จ

ความฝันสูงสุดนี้เริ่มต้นขึ้นนับตั้งแต่กลุ่มทุนอาบูดาบีเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรในปี 2008 และเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ นับตั้งแต่ เป๊ป เข้ามาคุมทีมในปี 2016

เป็นการใช้เวลาอย่างยาวนาน 15 ปี และลงทุนไปมากกว่า 2 พันล้านปอนด์ แต่ท้ายที่สุดพวกเขาไปถึงฝัน พร้อมได้รับการยกย่อยเป็นทีมที่ดีที่สุดในยุโรป ณ เวลานี้

เออร์ลิง ฮาลันด์

เออร์ลิง ฮาลันด์ ไม่ใช่แค่ทำประตูเป็นกอบเป็นกำเท่านั้น แต่เขายังช่วยเพิ่มมิติใหม่ ๆ ในเกมรุกของ แมนฯ ซิตี้ ปัญหาหลักในทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา คือการขาดศูนย์หน้าตัวเป้ามาตลอด 2 ฤดูกาลหลัง รวมถึงเกมนัดชิงฯ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2021 ที่แพ้ต่อเชลซี

การมาของ ฮาลันด์ พลิกโฉมเกมรุกของ ซิตี้ให้มีความหลากหลาย นอกจากจะต่อบอลอันเป็นเอกลักษณ์ของพวกเขา ยังมีการใช้บอลยาว รวมถึงฟูลแบ็คเติมขึ้นมาจู่โจมคู่แข่งมากขึ้น

และการถล่มประตูไป 52 ประตูรวมทุกรายการคือเครื่องยืนยันความยอดเยี่ยมและสอดประสานอย่างลงตัวของ ฮาลันด์ กับ แมนฯ ซิตี้

กำจัด เจา คันเซโล และเติมความสดใหม่ในทีม

เป๊ป กวาร์ดิโอลา ไม่เคยลังเลหากถึงเวลาที่ต้องตัดเนื้อร้ายจากทีม เหมือนที่ทำกับ โรนัลดินโญ, เดโก้ และ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช มาแล้วที่ บาร์เซโลนา

ในฤดูกาลนี้ เจา คันเซโล คือนักเตะที่เขารู้ดีว่าต้องปล่อยออกจากทีม แบ็คทีมชาติโปรตุเกส เป็นนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้ดีที่สุดคนหนึ่งในช่วง 1-2 ฤดูกาลหลัง ทว่าช่วงครึ่งฤดูกาลแรกเขาโดนตัดชื่อหลายหน โดยมีรายงานจาก The Times ว่า คันเซโล มักแสดงออกมาแบบเด็ก ๆ ยามถูกดรอป รวมถึงใส่หูฟังตอนประชุมทีม

เป๊ป ไม่รอช้าส่งเขาไป บาเยิร์น มิวนิค ที่โคจรมาพบกันในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายก่อนที่พวกเขาจะอัดไปแบบเหนือชั้น 3-0

นอกจากนี้ยังมี กาเบรียล เชซุส, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ และ ราฮีม สเตอร์ลิง ที่ เป๊ป ปล่อยออกไปโดยไม่กระทบทีมแต่แย่างใด

เรียกร้องความสามัคคี

นอกจากตัดเนื้อราย กวาร์ดิโอลา ยัง กำชับลูกทีมเรื่องการทำงานหนักเป็นทีม มีหลายหนที่ทีมฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์มาแล้วหมดไฟ และความกระหาย ซึ่ง เป๊ป ไม่ต้องการให้ทีมของเขาเป็นแบบนั้น

การพลิกกลับมาเอาชนะ ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ 4-2 เมื่อเดือนมกราคม เป็นเกมที่ เป๊ป กล่าวชื่นชมสปิริตนักสู้ของลูกทีม

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่ เป๊ป ไม่พอใจนักเตะซีเนียร์ที่ไม่ปกป้อง ริโก้ ลูอิส ที่โดน ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ เล่นงานหลายครั้งจนมีปากเสียงกัน

พัฒนาแผนการเล่นสุดล้ำ

กวาร์ดิโอลา มักจะจับนักเตะไปเล่นตำแหน่งใหม่อยู่หลายครั้ง และหนึ่งในแผนที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่เขาคิดค้นคือการตับ จอห์น สโตนส์ มาเล่นแบบไฮบริด หนึ่งตำแหน่งคือ แบ็คขวา และอีกหน้าที่คือ มิดฟิลด์ตัวรับ

นอกจากนี้ เขายังทำให้ นาธาน อาเก้ กลายเป็นแบ็คซ้ายแถวหน้าของยุโรป อีกทั้ง มานูเอล อคานญี ที่โดนเบือนหน้าหนียามลงสนามกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แต่เขากลายมาเป็นกำแพงเหล็กของเรือใบสีฟ้า

“คุณไม่สามารถเล่นแบบเดิม ๆ 6-7 ฤดูกาลติดต่อกันได้หรอกนะ เหตุผลมี 2 ข้อ” เป๊ป อธิบายเมื่อเดือนที่ผ่านมา

“อย่างแรก คุณมีนักเตะที่ไม่เหมือนกัน และอย่างที่สอง คู่แข่งไม่ได้ป้องกันคุณเหมือนเดิมทุกครั้ง เพราะพวกเขารู้จักคุณมากขึ้น พวกเขาค้นพบความลับของคุณ พวกเขามีแผนโต้กลับ และคุณต้องสร้างระบบขึ้นมาใหม่ ทั้งเกมรุกและเกมรับ”

ใช้คดีกับพรีเมียร์ลีกเป็นเชื้อเพลิง

ความสำเร็จของ แมนฯ ซิตี้ เป็นสิ่งที่น่าจดจำ ทว่า การที่พวกเขาโดนพรีเมียร์ลีกตั้งข้อหาละเมิดกฎการเงินเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ถึง 115 คดี สำหรับ ซิตี้ ข้อกล่าวหานี้คล้ายกับ ยูฟ่า เมื่อหลายปีโดยที่ เป๊ป นำมันมาใช้เป็นข้อได้เปรียบทำให้ทีมของเขาเหมือนเหยื่อถูกกระทำ

เหมือนกับสมัยที่เขาคุม บาร์เซโลนา เขาเคยกล่าวไว้ว่า “มาจากประเทศเล็ก ๆ คาตาโลเนีย” ในความเป็นจริงที่ว่าบ้านเกิดของเขาเป็นหนึ่งในเมืองที่รวยที่สุดในสเปน และสโมสรฟุตบอลที่ทรงพลังมากที่สุด

กับ ซิตี้ พวกเขาโดนกล่าวหาว่าเรื่องรับเงินอัดฉีดจากอาบูดาบี และทีมมีรัฐหนุนหลัง แต่มันไม่สำคัญ การตั้งข้อกล่าวหามีขึ้นหลังเกมพ่าย ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ 1-0 และต่อด้วยความพ่ายแพ้คารังต่อ เบรนท์ฟอร์ด ซึ่งนั่นคือเกมสุดท้ายที่พวกเขาแพ้ก่อนเข้าเกียร์กวาดแชมป์สามรายการในฤดูกาลนี้

ปราบทีมใหญ่สิ้นซาก

ไม่ใช่แค่กวาดเทรเบิลแชมป์ฤดูกาลนี้ แต่พวกเขายังเอาชนะทีมใหญ่ในอังกฤษและยุโรปได้แบบขาดลอยอีกด้วย

ช่วงต้นฤดูกาล พวกเขาเปิดบ้านเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 6-3 ที่เอติฮัด และอีกครั้งในเกมเฉือน 2-1 คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ

พวกเขาถล่ม ลิเวอร์พูล 4-1 ในเดือนเมษายน เช่นเดียวกับ อาร์เซนอล คู่แข่งแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ด้วยสกอร์เดียวกัน

ฟอร์มที่เจิดจรัสที่สุดของพวกเขาอยู่ในเวทียุโรป ด้วยการรัวยิง แอร์เบ ไลป์ซิก 7-0 รวมถึงเอาชนะยักษ์ตัวเป้งอย่าง บาเยิร์น มิวนิค 3-0

ต่อด้วย เรอัล มาดริด ในเกมเลกสองในบ้านที่เอาชนะแบบเอาท์คลาสของจริงไปด้วยสกอร์ 4-0 ก่อนปิดฉากด้วยแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก